ชาว iPhone เคยเจอปัญหาแบตเตอรี่หมดไวหลังจากอัปเดต iOS ไหมครับ ปัญหาแบตเตอรี่หมดไวจะหมดไป ไม่ต้องคอยพกแบตเตอรี่สำรอง (Power Bank) อีกแล้ว เพราะเฮียแบทจะมาบอกวิธีตั้งค่า iPhone ให้แบตเตอรี่หมดช้า เป็นวิธีที่ช่วยประหยัดแบตเตอรี่ ที่ทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง นอกจากจะช่วยประหยัดแบตมือถือ และยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ให้นานขึ้นด้วย (สำหรับ iOS 14 ขึ้นไปนะครับ)
1.ปิด Background App Refresh
![](http://161.35.120.80/wp-content/uploads/2021/12/1.jpeg)
Background App Refresh เป็นการทำงานที่ดึงข้อมูลเบื้องหลังของแอปพลิเคชัน เช่น เปิด Background App Refresh ให้กับ Facebook ถึงแม้จะปิดแอปพลิเคชันไปแล้ว แต่ iOS ก็ยังดึงข้อมูลใน Facebook ไม่ว่าจะเป็นอัปเดตโพสต์หรือการแจ้งเตือนโดยอัตโนมัติ เมื่อกลับมาเปิด Facebook อีกครั้งจะสามารถดูคอนเทนต์ใหม่ๆ ได้ทันที ซึ่งจะใช้หน่วยความจำและเบตเตอรี่ค่อนข้างเยอะ แนะนำให้เลือกปิดเฉพาะแอปพลิเคชันที่ไม่ค่อยได้ใช้บ่อยหรือจะเลือกปิดทั้งหมดเลยก็ได้ วิธีนี้เป็นวิธีสำคัญที่ช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้มาก วิธีการตั้งค่า
> การตั้งค่า
> ทั่วไป
> ดึงข้อมูลแอปจากเบื้องหลัง
> ปิด แอปที่ไม่ต้องการให้ดึงข้อมูลเบื้องหลัง
2.ปิดคำแนะนำ Siri
![](http://161.35.120.80/wp-content/uploads/2021/12/2.jpeg)
ถ้าเปิดคำแนะนำ Siri ไว้ Siri จะคอยติดตามการใช้งานของผู้ใช้งานตลอดเวลา เพื่อจะได้รู้ว่าผู้ใช้ใช้แอปพลิเคชันไหนไหนบ่อยและมีการใช้งานแบบไหนบ้าง ซึ่งค่อนข้างกินพลังงานแบตเตอรี่ ถ้าคิดว่าไม่ต้องการได้คำแนะนำจาก Siri หรือต้องการประหยัดแบตเตอรี่ ก็ปิดฟีเจอร์นี้ดีกว่า โดยไปที่
> การตั้งค่า
> Siri และการค้นหา
> ปิด คำแนะนำบนหน้าจอล็อค และ คำแนะนำบนหน้าจอโฮม
3.ปิด Widget ที่ไม่ได้ใช้งาน
![](http://161.35.120.80/wp-content/uploads/2021/12/3-576x1024.jpeg)
ใครที่ชอบใช้งาน Widget เพราะอยากตกแต่งหน้าจอโทรศัพท์ให้สวยงาม ต้องคิดใหม่ เพราะบาง Widget มีการใช้งาน Location Service ควบคู่ไปด้วย เช่น แผนที่การเดินทาง พยากรณ์อากาศ ซึ่งใช้พลังงานแบตมือถือค่อนข้างมาก ถ้าเลือกปิด Widget บางอันหรือทั้งหมดเลย จะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้มากขึ้น โดยวิธีปิดนั้นง่ายมาก
> แตะหน้าโฮมค้างไว้ 2-3 วินาที
> แตะไอคอนลบ Widget ที่ไม่ได้ใช้งาน
4.ปิดการแจ้งเตือนในบางแอปพลิเคชันที่ไม่ค่อยได้ใช้
![](http://161.35.120.80/wp-content/uploads/2021/12/4.jpeg)
นอกจากแอปพลิเคชัน Social Media หรือแอปพลิเคชั่นแชท หลายคนคงมีอีกหลายแอปพลิเคชันที่ไม่ใช้งานไม่บ่อย อย่าง แอปพลิเคชั่นช้อปปิ้ง แอปพลิเคชันเดลิเวอรี่ หรือใช้บ่อยแต่เผลอเปิดแจ้งเตือนที่ไม่จำเป็นไว้ อย่าง แอปพลิเคชันเกม นอกจากการแจ้งเตือนเหล่านี้จะสร้างความรำคาญแล้วยังเป็นการใช้พลังงานเบื้องหลังด้วย ทำให้กินพลังงานแบตเตอรี่ วิธีแก้ให้เข้าไปปิดการแจ้งเตือนแอปพลิเคชันเหล่านี้ โดยวิธีง่ายๆ คือ
> การตั้งค่า
> การแจ้งเตือน
> เลือกแอปพลิเคชันที่ต้องการปิดการแจ้งเตือน
> ปิด อนุญาตการแจ้งเตือน
5.ปิดการดาวน์โหลดและอัปเดตอัตโนมัติใน App Store
![](http://161.35.120.80/wp-content/uploads/2021/12/5.jpeg)
การอัปเดตแอปพลิเคชันจะช่วยให้โทรศัพท์ ทำงานได้เร็วขึ้น มีฟีเจอร์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นก็จริงแต่การเปิดการดาวน์โหลดและอัปเดตอัตโนมัติใน App Store ใน iPhone จะทำให้ในอุปกรณ์อื่น (iPad) ที่ผูก Apple ID เดียวกันมีการอัปเดตไปด้วย ทำให้อีกอุปกรณ์เปลืองแบตเตอรี่ไปด้วยโดยไม่ได้ตั้งใจ ดังนั้นตั้งค่าเป็นการอัปเดตด้วยตนเองดีกว่า นานๆ ทีเข้าไปเช็คแล้วค่อยอัปเดตก็ยังไม่สาย แถมประหยัดแบตเตอรี่ได้ 2 เครื่องด้วยนะ โดยไปตั้งค่าที่
> การตั้งค่า
> App Store
> ปิด รายการดาวน์โหลดอัตโนมัติทั้งหมด
6.เปิด Dark Mode ใช้งานโหมดมืด
![](http://161.35.120.80/wp-content/uploads/2021/12/6.jpeg)
iPhone ที่มีหน้าจอเป็น OLED สามารถปรับธีมหน้าจอให้เป็นแบบโทนสีมืด เพื่อช่วยให้การใช้งานในเวลากลางคืนหรือในที่แสงน้อยสะดวกมากขึ้นและช่วยประหยัดแบตเตอรี่อีกด้วย วิธีตั้งค่า
> การตั้งค่า
> จอภาพและความสว่าง
> แตะเลือก มืด (Dark) ถ้าต้องการให้มีการเปิด-ปิดโหมดมืดแบบอัตโนมัติก็สามารถทำได้ โดยเลือกเปิด อัตโนมัติ ได้เลย จากนั้นก็ตั้งเวลาหรือจะเลือกการเปิดโหมดมืดจนถึงดวอาทิตย์ขึ้นก็ได้
7.ตั้งค่าการเข้าถึงตำแหน่งที่ตั้งในระหว่างใช้แอปพลิเคชัน
![](http://161.35.120.80/wp-content/uploads/2021/12/7-603x1024.jpeg)
การตั้งค่าการเข้าถึงตำแหน่งที่ตั้งตลอดเวลาทำให้เป็นการเปลืองพลังงานแบตมือถือมาก เพราะจะมีการใช้งานเบื้องหลังของแอปพลิเคชันนั้นด้วย วิธีแก้คือให้เข้าไปตั้งค่าการเข้าถึงตำแหน่งที่ตั้งในระหว่างการใช้แอปพลิเคชันเท่านั้น พลังงานแบตเตอรี่ก็จะถูกใช้เวลาที่เข้าแอปพลิเคชันเท่านั้น วิธีตั้งค่าให้เข้าไปที่
> การตั้งค่า
> ความเป็นส่วนตัว
> บริการหาตำแหน่งที่ตั้ง
> แตะแอปที่ต้องการ แล้วเลือก ในระหว่างใช้
8.เปิดโหมดประหยัดพลังงาน
![](http://161.35.120.80/wp-content/uploads/2021/12/8.jpeg)
โหมดประหยัดพลังงานจะช่วยลดการทำงานบางอย่างที่ไม่สามารถปิดหรือควบคุมได้ รวมถึงปิดฟังก์ชันบางอย่างที่ไม่จำเป็นต่อการใช้งาน ถือเป็นฟีเจอร์ที่ดีที่สุดในการยืดอายุแบตเตอรี่ ทำให้แบตเตอรี่ใช้ได้นานขึ้น โดยไปตั้งค่าที่
> การตั้ง
> แบตเตอรี่
> เปิด โหมดพลังงานต่ำ
9.ตรวจสอบ Battery Life
![](http://161.35.120.80/wp-content/uploads/2021/12/9.jpeg)
สำหรับ iPhone จะมีฟังก์ชันที่เรียกว่า ตรวจสอบสุขภาพของแบตเตอรี่ (Battery Health) มีไว้สำหรับดูว่า แบตเตอรี่ของ iPhone ที่ใช้อยู่มีประสิทธิภาพการใช้งานเหลืออยู่กี่เปอร์เซ็นต์ แบตเตอรี่ที่จัดว่ายังมีสุขภาพดีควรมีตัวเลขมากกว่า 80% ถ้าต่ำกว่านี้แปลว่าประสิทธิภาพในการใช้จะน้อยลง เช่น แบตเตอรี่หมดไว หรือ ใช้งานอยู่แล้วรู้สึกว่าเครื่องร้อน นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่แล้ว วิธีเช็คให้เข้าไปที่
> การตั้งค่า
> แบตเตอรี่
> สุขภาพแบตเตอรี่