Mbps คืออะไร 1Mbps เร็วไหม? Kbps กับ Mbps อันไหนเร็วกว่ากัน?

ทุกวันนี้การใช้งานอินเตอร์เน็ตบนมือถือในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะใช้ในการทำงาน ธุระส่วนตัวหรือเพื่อความบันเทิง ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของเราไปแล้ว ยิ่งช่วงนี้ มีหลายองค์กรที่ให้พนักงานหันไปทำงานจากที่บ้านหรือเวิร์ค ฟอร์ม โฮม ทำให้ต้องมีการสื่อสาร ส่งต่อข้อมูลระหว่างกันผ่านอินเตอร์เน็ตสูงมากยิ่งขึ้น

หรือแม้แต่คนทำกิจการ ห้างร้านส่วนตัว ที่อาจต้องปิดหน้าร้านตามมาตรการของรัฐ แล้วหันมาขายผ่านช่องทางออนไลน์ก็จำเป็นต้องใช้บริการอินเตอร์เน็ตมากขึ้นตามไปด้วย เช่นกัน

เมื่อทุกคนต้องเกี่ยวข้องกับอินเตอร์เน็ต โดยเฉพาะเน็ตบนมือถือ อย่างน้อยเราก็ควรมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ตไว้บ้าง

หากพูดถึงเน็ตมือถือ คำสองคำที่เราได้ยินกันเป็นประจำเวลาที่เราต้องเลือกใช้งานเน็ตให้เหมาะสมกับความต้องการก็คือ คำว่าความเร็วเน็ตกับปริมาณเน็ต

เช่นเน็ตเร็ว แรง 100 Mpbs หรือเน็ตจุใจ ฟรี 10 GB
เรามักจะได้ยิน หน่วยสองตัวหลังนี้กันเป็นประจำ คือ Mpbs กับ B

ทุกคนคงพอทราบคร่าว ๆ ว่า Mpbs คือหน่วยความเร็วเน็ต และ B คือหน่วยของปริมาณเน็ตแต่อาจจะยังไม่รู้ข้อมูลเชิงลึกในรายละเอียด

ก่อนจะไปต่อ เรามาเริ่มจากทำความเข้าใจคำว่า Bit กับ Byte ก่อนดีกว่า

ซิมรายปี เน็ตไม่อั้น เน็ตแรง สูงสุด 1000Mbps คลิก ซิมเทพ

ทำความเข้าใจ Bit กับ Byte

Bit บิต ย่อมาจาก binary digit
หากอธิบายง่าย ๆ บิทก็หมายถึงเลขฐาน 2 ในระบบข้อมูลคอมพิวเตอร์ซึ่งก็คือเลข 0 กับเลข 1 เรียกว่า bit 1 กับ bit 2

เลขฐานสองคือสัญญาณไฟฟ้าพื้นฐานหรือภาษาในคอมพิวเตอร์ก่อนที่จะแปลงเป็นข้อมูลตัวอักษร ภาพและเสียง ให้เราได้เห็น ได้ยิน ออกมาจากคอมพิวเตอร์ แทปเล็ตหรือสมาร์ทโฟน

ส่วน Bite ไบต์ มาจากเลขฐานสองเมื่อสักครู่จำนวน 8 หลักหรือเรียกอีกอย่างว่า 8 บิท
ซึ่งเลขฐานสอง 8 หลักแต่ละตัว จะใช้แทนค่าของข้อมูลต่าง ๆ เช่น
ตัวอักษร A แทนด้วย 01000001
ตัวอักษร B แทนด้วย 01100010 เป็นต้น

เมื่อรู้จัก บิท และ ไบต์ เป็นเบื้องต้นไปแล้ว คราวนี้มาเข้าเรื่องความเร็วเน็ตกับปริมาณเน็ตกันต่อ

ปริมาณเน็ตคืออะไร?

ปริมาณเน็ต คือจำนวนข้อมูลที่ส่งจากแหล่งข้อมูลโดยผ่านระบบอินเตอร์เน็ตไปยังปลายทางซึ่งในที่นี้ เรากำลังหมายถึงบนมือถือ โดยปริมาณเน็ตนิยมวัดค่าเป็น
B หรือ Bite(ไบต์)
ยกตัวอย่าง เน็ต 10 GB (กิ-กา-ไบต์)ก็หมายถึงคุณสามารถรับส่งข้อมูลได้จำนวน 10,073,741,824 Bite เพราะ หน่วยกิกา จะเท่ากับ 10 ยกกำลัง 9 หรือเท่ากับพันล้าน นั่นเอง ในความเป็นจริง เราอาจไม่จำเป็นต้องรู้ว่า MB เมกาไบต์ GB กิกาไบต์ หรือเทราไบต์ TB เป็นจำนวนกี่ไบต์ก็ได้ แค่เรารู้ว่ามันหมายถึงจำนวนข้อมูลหรือปริมาณข้อมูลก็พอ

มาถึงในส่วนของความเร็วเน็ตกันบ้าง

Mbps คืออะไร

ความเร็วเน็ต จะมีหน่วยวัดเป็น Mbps ย่อมาจาก Megabit per second (อ่านว่า เม-กะ-บิท เพอ
เซคคั่น) หรือ เม-กะ-บิท ต่อวินาที ความหมายของมันก็คือปริมาณข้อมูลอินเตอร์เน็ตที่รับส่งได้ต่อวินาที หากตัวเลขยิ่งมาก ยิ่งรับส่งข้อมูลได้เร็ว ว่างั้นเถอะ
เช่น เน็ตเร็ว แรง 100 Mbps มีความเร็วการรับส่งข้อมูลเท่ากับปริมาณ 1 ล้านบิทต่อวินาที แปลงเป็นปริมาณข้อมูลคร่าว ๆ จะเท่ากับ 125,000 ไบต์ต่อวินาที

สำหรับการนำข้อมูลพื้นฐานเหล่านี้มาปรับใช้เพื่อเลือกแพคเกจ หรือซิมมือถือให้เหมาะกับการใช้งานของเรา คงขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของแต่ละบุคคลเป็นหลัก เช่น หากเราชอบดูหนัง เล่นเกมออนไลน์ ความเร็วอินเตอร์เน็ตก็เป็นเรื่องสำคัญลำดับต้น ๆ ที่ต้องพิจารณา เพราะความคมชัดของภาพ ในเวลาที่เราสตรีมมิ่ง จะขึ้นอยู่กับความเร็วต่อเนื่องของการรับส่งข้อมูลเป็นหลัก ระบบสตรีมมิ่งจะเลือกความคมชัดที่พอดีกับความเร็วเน็ตของเรา เพื่อให้การสตรีมมิ่งไม่สะดุด เน็ตยิ่งแรง ภาพยิ่งละเอียด จะว่าแบบนั้นก็ได้

สำหรับคนที่ไม่ได้ใช้เน็ตมือถือดูภาพเคลื่อนไหว แต่เน้นใช้รับ ส่งไฟล์ข้อมูลอื่นที่มีจำนวนมากในการทำงาน ก็อาจจะหันไปให้ความสนใจกับแพคเกจหรือซิมชนิดที่รองรับปริมาณอินเตอร์เน็ตเยอะ ๆ แทน

ส่วนใครที่ใช้งานทั้งสองประเภทคือ ข้อมูลก็ต้องรับส่ง การรับชมความบันเทิงจากภาพและเสียงก็ใช้งานเป็นประจำ
ก็ควรเลือกบริการอินเตอร์เน็ตที่ทั้งเร็วและแรงจะคุ้มค่ากว่า เพราะจะไม่ทำให้ท่านเสียอารมณ์เวลาที่รับชมภาพยนตร์เรื่องโปรด

สำหรับใครที่อาจจะคำนวณการใช้งานตามความต้องการไม่ถูก ด้านล่างนี้จะเป็นข้อมูลคำแนะนำเบื้องต้นของการใช้งานอินเตอร์เน็ตในการรับชมวิดีโอ ทั้งการเลือกปริมาณเน็ตที่ใช้และความเร็วที่ต้องการ

ปริมาณเน็ตที่ใช้ในแต่ละระดับความคมชัด


ถ้าดูหนังที่ความละเอียด 240 p (426×240) ปริมาณข้อมูลทั้งหมดที่ใช้ประมาณ 300 MB
ถ้าดูหนังที่ความละเอียด 360 p (640×360) ปริมาณข้อมูลทั้งหมดที่ใช้ประมาณ 500 MB
ถ้าดูหนังที่ความละเอียด 480 p (854×480) ปริมาณข้อมูลทั้งหมดที่ใช้ประมาณ 800 MB
ถ้าดูหนังที่ความละเอียด 720 p : HD (1280×720) ปริมาณข้อมูลทั้งหมดที่ใช้ประมาณ 3 GB
ถ้าดูหนังที่ความละเอียด 1080 p : Full HD (1920×1080) ปริมาณข้อมูลทั้งหมดที่ใช้ประมาณ 6 GB
ถ้าดูหนังที่ความละเอียด 1440 p : Quad-HD (2560×1440) ปริมาณข้อมูลทั้งหมดที่ใช้ประมาณ 12 GB
ถ้าดูหนังที่ความละเอียด 2160 p : 4K (3840×2160) ปริมาณข้อมูลทั้งหมดที่ใช้ประมาณ 20 GB

หมายเหตุ : ค่าความละเอียดที่เหมาะสมสำหรับการรับชมผ่านโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตคือ ระดับ HD (720p)ซึ่งใช้ปริมาณข้อมูลประมาณ 2 GB ต่อเรื่อง เท่ากับว่า เน็ต 70 GB สามารถดูหนังแบบ HD ได้ประมาณ 33 เรื่อง หรือเฉลี่ยวันละ 1 เรื่อง ทั้งนี้ปริมาณข้อมูลจะขึ้นอยู่กับค่าบิทเรทของวีดีโอแต่ละตัวด้วย

ความเร็วเน็ตที่ต้องการตามระดับความคมชัด

ความละเอียดระดับ 360p หรือต่ำกว่า ความเร็วอินเตอร์เน็ตต่อเนื่องที่แนะนำ 0.7 Mbps
ความละเอียดระดับ 480p ความเร็วอินเตอร์เน็ตต่อเนื่องที่แนะนำ 1.1 Mbps
ความละเอียดระดับ 720p ความเร็วอินเตอร์เน็ตต่อเนื่องที่แนะนำ 2.5 Mbps
ความละเอียดระดับ 1080p ความเร็วอินเตอร์เน็ตต่อเนื่องที่แนะนำ 5 Mbps
ความละเอียดระดับ 4K ความเร็วอินเตอร์เน็ตต่อเนื่องที่แนะนำ 20 Mbps

ผมหวังว่าข้อมูลจากบทความนี้น่าจะช่วยให้ท่านสามารถเลือกการใช้งานอินเตอร์เน็ตบนมือถือได้เหมาะสมกับลักษณะการใช้งานนะครับ

เน็ตที่ดีที่สุด อาจไม่ใช่เน็ตที่เร็ว แรงที่สุดหรือเน็ตที่ประหยัดที่สุด ก็อาจจะไม่ใช่เน็ตที่ราคาถูกที่สุด
แต่คือเน็ตที่เหมาะสมและลงตัวกับการใช้งานของเรามากที่สุด นั่นแหละคือเน็ตที่ดีที่สุด

ผมอยากจะบอกว่า หากท่านมองหาซิมหรือแพคเกจอินเตอร์เน็ตที่ตอบโจทย์ความต้องการจากร้านทั่วไปไม่ได้
ในปัจจุบันนี้มีซิมที่สามารถตอบโจทย์การใช้งาน ในรูปแบบโปรอินเตอร์เน็ตแบบ unlimited ที่จำกัดความเร็วหรือแบบที่ให้ความเร็วสูงสุดแต่จำกัดปริมาณข้อมูล เราเรียกซิมมือถือแบบที่หาทั่วไปไม่ได้แบบนี้ว่า”ซิมเทพ”

ซิมเทพ สามารถตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ที่สำคัญมันทำให้ท่านสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ตามความต้องการ
ซิมเทพเป็นซิมที่มีตัวแทนจำหน่ายโดยเฉพาะ ท่านจะได้รับโปรการใช้งานอินเตอร์เน็ตในแบบที่หาที่ไหนไม่ได้นอกจากในซิมเทพเท่านั้น

เทคนิคการดูวีดีโอสตรีมมิ่ง-Youtube ให้ประหยัดข้อมูล

  1. กำหนดความละเอียดของภาพให้เหมาะสม ค่าความละเอียดของภาพที่ถือว่ามีความคมชัดและใช้ทรัพยากรน้อย คือ ความละเอียดที่ 480p สามารถตั้งค่าส่วนนี้ได้เมื่อแตะหัวข้อ Quality และเลือกเป็น 480p
  2. ปิดการเล่นวีดีโออัติโนมัติบน Youtube เพื่อไม่ให้วีดีโอเล่นต่อเนื่องเพราะหลายครั้ง เราก็ไม่ได้อยากดูวีดีโอเหล่านั้น

การตั้งค่าใน Netflix เพื่อให้ประหยัดข้อมูล
ใน Netflixสามารถตั้งค่าการใช้ข้อมูลได้ 4 แบบ

  1. ระดับต่ำ ใช้ข้อมูลทั้งหมด 300 MB ต่อชั่วโมง ความละเอียดของภาพอยู่ในระดับที่พอรับได้
  2. ระดับกลาง ใช้ข้อมูลทั้งหมด 700 MB ต่อชั่วโมง ความละเอียดของภาพอยู่ในระดับที่ดีพอใช้ สามารถดูบนมือถือได้ดี
  3. ระดับสูง ใช้ข้อมูลทั้งหมด 3 GB ต่อชั่วโมง (ถ้าเป็นภาพระดับ Ultra HD ใช้ข้อมูล 7 GB ต่อชั่วโมง) ระดับภาพคมชัด สามารถดูบนคอมพิวเตอร์และโทรทัศน์ได้
  4. อัติโนมัติ ระบบของ Netflix จะปรับความละเอียดของภาพให้ตามความเร้วในการเชื่อมต่อของอินเตอร์เน็ต

ระดับภาพที่แนะนำ สำหรับมือถือคือระดับกลางถึงสูง(แบบ HD)

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคอหนังทุกคนที่ใช้ซิมเน็ตรายปี ที่โปรโมชั่นมีการจำกัดการใช้งานความเร็วสูงสุดไว้ เพียงเท่านี้คุณก็สามารถสนุกกับหนังและซีรีส์ได้อย่างไหลลื่น ไม่มีสะดุด ถ้าเราเข้าใจในเรื่องนี้ เน็ต 70 GB ก็จะสามารถใช้ได้เพียงพอทุกเดือน ขอให้สนุกกับการชมภาพยนตร์ครับ