iPad รุ่นไหนดี 2025? เปรียบเทียบสเปค ราคา ครบจบในที่เดียว

ipad recommend

iPad รุ่นไหนดี? น่าจะเป็นคำถามที่หลายคนพิมพ์ค้นหาบ่อยที่สุดเมื่อคิดจะซื้อแท็บเล็ตในปี 2025 นี้ เพราะ iPad ไม่ใช่แค่แท็บเล็ตสำหรับดูหนังฟังเพลงอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็นเครื่องมือที่จำเป็นทั้งสำหรับการเรียน การทำงาน และความบันเทิงส่วนตัว

แต่พอเข้ามาดูรุ่นที่จะซื้อจริงๆ ก็อาจจะต้องปวดหัว เพราะ Apple มี iPad วางขายพร้อมกันถึง 4 รุ่นหลัก! ทั้ง iPad Pro, iPad Air, iPad (Gen) และ iPad mini แล้วเราจะซื้อไอแพดรุ่นไหนดี ให้เหมาะกับเราที่สุดล่ะ? ไม่ต้องกังวลครับ บทความนี้จาก A lot Tech จะเป็นไกด์ไลน์แนะนำ iPad รุ่นไหนดีที่เหมาะกับคุณ

รู้จัก iPad 4 รุ่นหลัก iPad Pro, iPad Air, iPad (Gen), iPad mini

ก่อนจะไปเจาะลึก เรามาทำความรู้จัก iPad ทั้ง 4 รุ่นกันก่อนครับ

iPad Pro

สำหรับมืออาชีพสายครีเอทีฟ กราฟิก ตัดต่อ ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุดแบบไม่เกี่ยงงบ

iPad Air

ตัวจบของใครหลายคน ได้ประสิทธิภาพสูงในราคาที่จับต้องได้ เป็นรุ่นที่สมดุลที่สุดในเรื่องราคา และประสิทธิภาพที่ได้รับ

iPad (Gen)

คุ้มค่าสำหรับทุกคนในครอบครัว นักเรียน นักศึกษา หรือการใช้งานทั่วไปในราคาที่เข้าถึงง่ายที่สุด

iPad mini

เล็กแต่แจ๋ว อัดแน่นด้วยสเปกที่แรงเกินตัว เน้นการพกพาและการใช้งานมือเดียว

10 iPad รุ่นไหนน่าสนใจ ใช้ทำงาน ใช้เรียน 2025

หลังจากรู้แล้วว่าแต่ละรุ่นเหมาะกับใคร นี่คือ 10 รุ่นที่เราคัดมาให้โดยเฉพาะโดย A lot Tech กันครับ

1. iPad (รุ่นที่ 9)

ราคาเริ่มต้น: 12,900 บาท

สเปคเด่น: ชิป A13 Bionic, จอ Retina 10.2″, ยังคงมีปุ่มโฮม, รองรับ Apple Pencil (รุ่นที่ 1)

เหมาะสำหรับ: รุ่นเริ่มต้นที่ราคาประหยัดที่สุด, การใช้งานทั่วไป, เรียนออนไลน์, ดูคอนเทนต์, เป็นเครื่องสำรองหรือเครื่องแรกสำหรับเด็ก

2. iPad (รุ่นที่ 10)

ราคาเริ่มต้น: 11,100 บาท

สเปคเด่น: ชิป A14 Bionic, จอ Liquid Retina 10.9″ ดีไซน์ใหม่, กล้องหน้าแนวนอน, USB-C, รองรับ Apple Pencil (Gen 1/USB-C)

เหมาะสำหรับ: รุ่นเริ่มต้นที่คุ้มค่ามาก, ดีไซน์ทันสมัย, ใช้เรียน, ทำงานเอกสาร, ใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน

สนใจ iPad Gen10 ราคาพิเศษ

3. iPad mini (รุ่นที่ 6)

ราคาเริ่มต้น: 19,900 บาท

สเปคเด่น: ชิป A15 Bionic, จอ Liquid Retina 8.3″, ดีไซน์กะทัดรัด, รองรับ Apple Pencil (รุ่นที่ 2)

เหมาะสำหรับ: คนที่เน้นพกพา, จดโน้ต, อ่าน E-book, จัดการงานนอกสถานที่, เล็กแต่ทรงพลัง

4. iPad Air 10.9” (รุ่นที่ 5, M1)

ราคาเริ่มต้น: 23,900 บาท

สเปคเด่น: ชิป M1, จอ Liquid Retina 10.9″, รองรับ Apple Pencil (รุ่นที่ 2)

เหมาะสำหรับ: รุ่นที่ยังคุ้มค่ามาก, สมดุลสำหรับนักศึกษาและคนทำงาน, ชิป M1 ยังคงแรงเหลือเฟือสำหรับทุกงาน

5. iPad Air 11” (M2)

ราคาเริ่มต้น: 23,900 บาท

สเปคเด่น: ชิป M2, จอ Liquid Retina 11″, กล้องหน้าแนวนอน, รองรับ Apple Pencil Pro

เหมาะสำหรับ: คนที่ต้องการรุ่นใหม่ล่าสุดในราคาที่เข้าถึงง่าย, ประสิทธิภาพสูงสำหรับทำงานและเรียน, เป็นรุ่นมาตรฐานที่ลงตัวที่สุด

6. iPad Air 13” (M2)

ราคาเริ่มต้น: 29,900 บาท

สเปคเด่น: ชิป M2, จอ Liquid Retina 13″, รองรับ Apple Pencil Pro

เหมาะสำหรับ: คนที่ต้องการจอใหญ่ทำงานแทนแล็ปท็อป, งานเอกสาร/วาดรูปที่ต้องการพื้นที่จอขนาดใหญ่ ในราคาที่คุ้มค่า

7. iPad Pro 11″ (รุ่นที่ 4, M2)

ราคาเริ่มต้น: 32,900 บาท

สเปคเด่น: ชิป M2, จอ Liquid Retina XDR 120Hz (ProMotion), 4 ลำโพง, รองรับ Apple Pencil (รุ่นที่ 2)

เหมาะสำหรับ: มือโปร, ตัดต่อวิดีโอ, คนที่ต้องการประสิทธิภาพระดับท็อปและจอที่ลื่นไหล ในราคาที่เข้าถึงง่ายกว่ารุ่น M4

สนใจ iPad Pro11 Gen4 ในราคาพิเศษ

8. iPad Pro 12.9″ (รุ่นที่ 6, M2)

ราคาเริ่มต้น: 44,900 บาท

สเปคเด่น: ชิป M2, จอ Mini-LED Liquid Retina XDR 120Hz (ProMotion), รองรับ Apple Pencil (รุ่นที่ 2)

เหมาะสำหรับ: สายอาร์ต, กราฟิกดีไซเนอร์ที่ต้องการจอขนาดใหญ่ที่สุด (12.9 นิ้ว) และความแรงของชิป M2 ในราคาที่คุ้มค่ากว่า M4

9. iPad Pro 11″ (M4)

ราคาเริ่มต้น: 39,900 บาท

สเปคเด่น: ชิป M4, จอ Ultra Retina XDR (Tandem OLED) 120Hz, ตัวเครื่องบางเบา, รองรับ Apple Pencil Pro

เหมาะสำหรับ: คนที่อยากได้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด, จอ OLED ที่สวยงามที่สุด, และชิป M4 ที่แรงที่สุดในปัจจุบันสำหรับงานสร้างสรรค์ระดับสูง

10. iPad Pro 13″ (M4)

ราคาเริ่มต้น: 52,900 บาท

สเปคเด่น: ชิป M4, จอ Ultra Retina XDR (Tandem OLED) 120Hz ขนาดใหญ่, ตัวเครื่องบางที่สุด, รองรับ Apple Pencil Pro

เหมาะสำหรับ: ที่สุดของ iPad สำหรับมืออาชีพที่ต้องการจอใหญ่และประสิทธิภาพสูงสุดแบบไม่มีประนีประนอม, ใช้แทนที่แล็ปท็อปได้อย่างสมบูรณ์แบบ

5 ปัจจัยที่ต้องดู ก่อนตัดสินใจซื้อ iPad

เมื่อรู้จักรุ่นหลักๆแล้ว มาดูกันว่าคุณควรใช้เกณฑ์อะไรในการตัดสินใจเลือก iPad รุ่นไหนดี

1. งบประมาณ (Budget)

นี่คือข้อแรกที่ต้องชัดเจน คุณมีงบเท่าไหร่? (ไอแพดราคาถูกก็มี) หรือพร้อมจัดเต็ม? การตั้งงบประมาณในใจจะช่วยให้คุณตัดตัวเลือกที่ไม่ใช่ออกไปได้ทันที

2. การใช้งาน (Use Case)

คุณซื้อไปทำอะไรเป็นหลัก? ไอแพดรุ่นไหนดีใช้เรียน จดเลคเชอร์? ใช้ทํางาน พรีเซนต์งาน? หรือเน้น วาดรูปเป็นอาชีพ? หรือแค่เล่นเกม ดู Netflix? การใช้งานคือตัวกำหนดสเปกที่เหมาะสมที่สุด

3. ขนาดหน้าจอ (Screen Size)

คุณชอบจอใหญ่เต็มตา (12.9″/13″) หรือจอมาตรฐาน (10.9″/11″) หรือชอบแบบพกพาง่าย (8.3″) ขนาดจอมีผลต่อการพกพาและพื้นที่การทำงานโดยตรง

4. ชิปประมวลผล (CPU)

แบ่งง่ายๆ คือ ชิป A-series (เช่น A14, A15) ที่อยู่ใน iPad Gen และ mini ซึ่งแรงเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป และชิป M-series (เช่น M1, M2, M4) ใน iPad Air และ Pro ที่ให้ประสิทธิภาพระดับเดียวกับคอมพิวเตอร์

5. Wi-Fi vs. Wi-Fi + Cellular (5G)

iPad wifi กับ cellular อัน ไหนดี? คำถามนี้ตอบง่ายมากครับ:

  • Wi-Fi: เหมาะกับคนใช้ที่บ้าน, ออฟฟิศ, มหาลัย ที่มี Wi-Fi ตลอดเวลา
  • Wi-Fi + Cellular: เหมาะกับคนที่ต้องทำงานนอกสถานที่, เดินทางบ่อย, หรือต้องการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลา

ถ้าคุณเลือกใช้งานรุ่น Cellular ก็อย่าลืมว่าต้องใช้คู่กับซิมเน็ตหรือโทร เราขอแนะนำซิมเน็ตรายปี หรือ ซิมเทพ จาก A Lot Tech ที่ใช้ได้ยาวๆ ได้ทั้งเน็ตแรง ได้ทั้งโทรไม่อั้น ไม่ต้องเติมเงินสามารถใช้คู่กับเบอร์เดิมได้ และ iPad รุ่นใหม่ๆ ก็รองรับเทคโนโลยี 5G และ esim

เลือก iPad ที่ใช่ แล้วซื้อกับ A lot Tech

หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณได้คำตอบว่า iPad รุ่นไหนดีที่ใช่ที่สุดสำหรับคุณนะครับ ไม่ว่าจะเน้นประหยัด, เน้นพกพา, หรือเน้นแรงๆ ก็มีรุ่นที่ตอบโจทย์คุณแน่นอนไม่ว่าคุณจะตัดสินใจเลือกรุ่นไหน A lot Tech มี iPad โปรโมชั่นพิเศษสำหรับคุณ ราคาดีที่สุด